ปัญหาของงานฟุตบอลประเพณีคือการยึดโยงกับอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตยของสถาบันกษัตริย์

ไม่กี่วันมานี้มีการถกเถียงกันอย่างมากเกี่ยวกับงานฟุตบอลประเพณี เนื่องจากองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) ประกาศยกเลิกขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในปีนี้

ในฐานะคนที่เคยค้นคว้าและร่วมเสวนาเกี่ยวกับงานฟุตบอลประเพณี เลยอยากจะเอาข้อมูลส่วนที่ตัวเองเคยค้นและประสบการณ์บางประการมาเผยแพร่ รวมถึงการเสนอข้อเสนอบางประการ โดยหวังว่าจะมีประโยชน์อยู่บ้างในสถานการณ์ปัจจุบัน

เมื่อเดือนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปี 2555 กลุ่มประชาคมจุฬาฯ เพื่อประชาชน (CCP) ซึ่งผมเป็นสมาชิก จัดงานเสวนา “เรายังจะจัดงานบอลกันอีกหรือ?” งานดังกล่าวมีวิทยากรหลายท่าน ส่วนใหญ่เป็นการวิจารณ์งานบอลที่จะจัดขึ้นในปีนั้น (จัดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555)

ในงานดังกล่าว ผมนำเสนอเรื่องประวัติศาสตร์ของงานฟุตบอลประเพณี โดยค้นเอกสารส่วนใหญ่จากหอประวัติฯ ของจุฬาฯ ผมทำ Powerpoint ไว้ จึงแปลงมาเป็น Pdf ให้โหลดได้ที่นี่

Continue reading “ปัญหาของงานฟุตบอลประเพณีคือการยึดโยงกับอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตยของสถาบันกษัตริย์”

เก่งมาจากไหนถึงไม่ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

(ชื่อบทความชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อหนังสือ ‘เก่งมาจากไหนถึงไม่เอากษัตริย์’ ของปราโมท นาครทรรพ)

เราเดินทางมาไกลแล้ว แต่เราจะต้องเดินต่อไป

การชุมนุมเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ในวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ (จากเว็บ thai-democracy.com)

เป็นเวลาปีกว่านับตั้งแต่การประกาศข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ๑๐ ข้อของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมในวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ สถานะและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในทางการเมืองที่ไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยสมัยใหม่ได้ถูกนำมาพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะเป็นวงกว้างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผลลัพธ์อันนี้ก็สืบเนื่องมาจากความกล้าหาญอันควรค่าแก่การยกย่องของเยาวชนและประชาชนที่ร่วมกันผลักดันการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะในท้องถนน ในรัฐสภา ในที่ทำงาน ในโรงเรียน ในบ้าน และในอินเตอร์เน็ท แต่ก็อย่างที่เราได้เห็นในปีที่ผ่านมาเช่นกันว่ารัฐและสถาบันกษัตริย์ไม่ได้เห็นข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์อยู่ในสายตา สำหรับพวกเขาแล้ว เสียงเรียกร้องของประชาชนให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ก็คงไม่ต่างจากแมลงหวี่แมลงวันที่ก่อความรำคาญชั่วครู่ชั่วยาม และถ้าจำเป็นก็อาจจะต้องกำจัดให้พ้นความรำคาญไปเสียบ้าง – การใช้กำลังกดขี่ปราบปรามประชาชนที่ได้เคยเกิดขึ้นและกำลังเกิดขึ้นอยู่ก็มีลักษณะเช่นนี้เอง

ถึงแม้การกดขี่ปราบปรามของรัฐจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นและมุ่งเน้นกำจัดคนที่ยังยืนหยัดพูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จนทำให้การพูดถึงปัญหาของสถานะและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ที่ไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยแผ่วเบาลงไปก็ตามที แต่หากจะเปรียบการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เป็นการเดินทางไกล กว่าเราจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นระยะทางที่ไม่ใช่น้อย และในระหว่างทางพวกเรายังได้สะสมเพื่อนร่วมทางมากขึ้นและมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นพวกเราก็ยังจะต้องเดินต่อไปอีก อย่าปล่อยให้ระยะทางและอุปสรรคเบื้องหน้าขัดขวางการเดินทางสู่เป้าหมายของเรา

ในระหว่างการเดินทางไกลนี้เอง  เราได้ทำให้เพื่อนร่วมชาติของเราจำนวนไม่น้อยได้เห็นแล้วว่าปัญหาสถานะและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยไม่ใช่แค่ความฝันร้ายชั่วครู่ชั่วยามและไม่ใช่สิ่งที่คนไทยจะสามารถหลับตาข้างหนึ่งเพื่อหนีปัญหาแล้วมันจะผ่านพ้นไปได้ แต่เป็นเรื่องที่พวกเราจะต้องหยิบยกพูดถึงในที่สาธารณะอย่างตรงไปตรงมากันเสียที

อย่างไรก็ตาม นอกจากพวกเราจะต้องยืนหยัดที่จะหยิบยกเอาปัญหาสถานะและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยออกมาพูดกันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว พวกเรายังจำเป็นต้องขยายจำนวนคนที่เห็นด้วยกับเราให้มากขึ้นไปอีก เนื่องเพราะการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เป็นปัญหาสำคัญของชาติ ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนส่วนใหญ่ที่เป็นเป็นเพื่อนร่วมชาติของเราเกิดฉันทามติร่วมกันว่าประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ไม่ว่าจะเพื่อรักษาประชาธิปไตยให้ดำรงอยู่ต่อไปได้ หรือจะเพื่อรักษาสถาบันกษัตริย์เอาไว้ในโลกสมัยใหม่ก็ตามที

Continue reading “เก่งมาจากไหนถึงไม่ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์”