มิซาเอะ: แม่บ้านปลดแอก

ในสังคมญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ภาพจำของผู้หญิงในยุคเบบี้บูม (baby boom) คือภาพที่ต้องเกี่ยวข้องกับบ้านเรือนหรือที่อยู่อาศัย ผลสำรวจในปี 2013 (68 ปีหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2) ชี้ว่าหนึ่งในสามของผู้หญิงญี่ปุ่นต้องการที่จะแต่งงานและใช้เวลาทั้งหมดให้กับความเป็นแม่บ้าน (housewife)[1] จากความคาดหวังของสังคม ภาพแม่บ้านญี่ปุ่นจึงประกอบสร้างเข้ากับบทบาทของผู้หญิงที่แต่งงานมีครอบครัว และกลายเป็นภาพจำของผู้คนในสังคม ที่ถูกถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่ามุขปาถะ ภาพยนตร์ หนังโป๊ รวมไปถึงในมังงะ (การ์ตูนช่องวาดด้วยลายเส้นของญี่ปุ่น) ภาพของแม่ของตัวละครหลักในมังงะหลายเรื่องก็จะมีลักษณะที่เป็นแม่บ้านแม่เรือน คอยดูแลลูกและสามี ทำกับข้าว ทำความสะอาด เช็ดครัว เก็บที่นอน ตากผ้า ไปจนถึงให้อาหารสุนัข

เครยอนชินจัง (Kureyon Shinchan) หนึ่งในมังงะที่ได้ทำเป็นแอนิเมะในสังคมญี่ปุ่นช่วงทศวรรษ 1990 ก็ปรากฏภาพของแม่บ้านอยู่ในหลายตัวละคร ครอบครัวโนะฮาร่าของชินจังก็ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวตามขนบธรรมเนียมของสังคมญี่ปุ่นทั่วไป พ่อทำงาน แม่เลี้ยงลูก ลูกเรียนหนังสือ แต่แม่บ้านโนะฮาร่านามว่า มิซาเอะ (Nohara Misae) ผู้เป็นแม่ของชินจัง มีลักษณะที่ผิดแผกไปจากภาพจำของแม่บ้านที่สังคมญี่ปุ่นคาดหวัง แม้ว่าวาทกรรมของความเป็นหญิงที่เชิดชูความเป็นแม่บ้านเมื่อแต่งงานมีครอบครัวจะเข้ากระทำการกับมิซาเอะเช่นกัน แต่ในบางครั้งมิซาเอะกลับไม่สนุกกับวาทกรรมนี้อีกต่อไปและได้แสดงออกมาผ่านเรื่องราวกว่าสองพันตอนของเครยอนชินจัง มิซาเอะคือผู้ที่พยายามต่อรองและสร้างความซับซ้อนให้กับความหมายของแม่บ้านตามภาพแบบฉบับของสังคมญี่ปุ่น

โนะฮาร่า มิซาเอะ (Nohara Misae)

บนเหรียญด้านหนึ่ง มิซาเอะก็เป็นผู้หญิงชนชั้นกลางธรรมดา อายุ 29 ปี มาจากชนบทเมืองคุมะโมะโตะ ใช้ชีวิตภายใต้สังคมญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีลูก มีสามี มีสุนัข มิซาเอะเป็นแม่บ้านที่ปัดกวาดเช็ดถู ทำอาหาร ซักผ้า รีดผ้าเย็บปักถักร้อย และเป็นแม่ ทุกวันมิซาเอะต้องตื่นเช้า ทำอาหารให้สามีก่อนออกไปทำงาน ปลุกชินจังให้ไปโรงเรียน ให้อาหารชิโร่ (สุนัข) ทำความสะอาดบ้าน ทำของว่างให้ชินจังหลังกลับจากโรงเรียน ทำอาหารเย็น และเทเบียร์ให้สามีหลังกลับจากที่ทำงาน ชีวิตก็วนเวียนเป็นวัฏจักรตามขนบแม่บ้านทั่วไป

ในขณะที่มิซาเอะพยายามเป็นแม่บ้านที่ดีต่อสามีและลูก แต่สำหรับเหรียญอีกด้านหนึ่ง มิซาเอะก็คือผู้ขบถต่อความเป็นแม่และแม่บ้านได้อย่างถึงพริกถึงขิง มิซาเอะนั้นขี้เกียจ ขี้บ่น ขี้โมโห บางครั้งอารมณ์ทนไม่ไหวต่อภาระหน้าที่ในบ้านทำให้มิซาเอะแทบจะเป็นช้างเท้าหน้าแทนฮิโรชิผู้เป็นสามีด้วยซ้ำไป ตอนที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือตอนที่ชื่อว่า “การสไตรค์งานของแม่” เมื่อเช้าวันหยุดวันหนึ่ง ทั้งชินจังและฮิโรชิเอาแต่สั่งให้มิซาเอะทำงานบ้าน เมื่อถึงขีดจำกัด มิซาเอะก็ทนไม่ไหวและระเบิดออกมา พร้อมกับลุกขึ้นประกาศว่าจะไม่ทำอะไรทั้งสิ้น “เอาแต่สั่งนู้นสั่งนี้ พูดออกมาง่าย ๆ แต่ว่าคนทำลำบากแค่ไหนรู้ไหม วันนี้ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งสิ้นและก็จะไม่ทำอะไรทั้งสิ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมอาหาร รีดผ้าทุกอย่างสองคนทำกันเอาเองก็แล้วกัน!” มิซาเอะพูดกับฮิโรชิและชินจัง

สิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากงานบ้านทั่วไป คือเมื่อผู้ชายเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัว คอยหาเงินเข้าบ้าน ผู้หญิงก็จะต้องเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมด แม่บ้านจึงต้องตระหนี่ขี้เหนียวเพื่อความมั่นคงทางการเงินภายในครัวเรือน แต่สำหรับมิซาเอะแล้วความคาดหวังนี้ไม่ได้เป็นดังนั้นเสมอไป มิซาเอะตระหนี่สำหรับของฟุ่มเฟือยที่ชินจังและฮิโรชิอยากได้ ในตอน “พ่อกับแม่ เปิดศึกกลางหน้าร้อน” ความขี้เหนียวของมิซาเอะได้ทำให้มิซาเอะกลายเป็นผู้เดินเกมนำหน้าฮิโรชิในบ้าน เมื่อฮิโรชิและชินจังต้องการเปิดแอร์ทั้งวันเพราะอากาศร้อน แต่ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นมิซาเอะจึงต้องหยุดความต้องการนั้นไว้ และให้เงื่อนไขถ้าหากสามีและลูกอยากเปิดแอร์ว่า “ลดเงินของคุณครึ่งหนึ่ง กินเบียร์ได้สองวันครั้ง กับแกล้มก็มีแค่มันฝรั่งแผ่น ที่จริงน่าจะงดเบียร์ไปเลยด้วยซ้ำ” เมื่อตกลงกันไม่ได้มิซาเอะกับสามีจึงเล่นเกมส์กัน โดยมีกติกาว่าใครเป็นคนพูดคำว่า “ร้อน” ก่อน คนนั้นเป็นฝ่ายแพ้ ผลก็คือมิซาเอะเป็นผู้ชนะ เพราะมิซาเอะใช้ภาระหน้าที่ในการทำอาหารของความเป็นแม่บ้านทำอาหารที่ร้อนและเผ็ดให้ฮิโรชิกิน มากไปกว่านั้น ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามมิซาเอะต้องการซื้อของที่อยากได้ มิซาเอะก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา ตอนที่มีชื่อว่า “งานพิเศษของแม่” เมื่อมิซาเอะเกิดอยากได้เสื้อโค้ทราคาแพงตัวหนึ่งขี้นมา มิซาเอะถึงกับละทิ้งงานบ้านทุกอย่างและออกมาหางานพิเศษทำที่ร้านหนังสือโดยไม่บอกทั้งฮิโรชิและชินจัง

อีกหนึ่งหน้าที่สำหรับความเป็นแม่บ้านที่ดี รวมไปถึงความเป็นผู้หญิงที่ดีด้วย ก็คือการรักเดียวใจเดียว มาตรฐานทางศีลธรรมนี้ดูจะเป็นมาตรฐานสากลในสังคมนิยมชาย (patriarchy) โดยทั่วไป ในตอน “แม่ครับเนื้อหอมมากเลยครับ” มิซาเอะออกไปซื้อของทำกับข้าวที่ร้านขายผัก แล้วไปพบเจอกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มาช่วยลุงขายผัก มิซาเอะเกิดอาการรักแรกพบขึ้นมา หลังจากนั้นมิซาเอะก็ไปซื้อของที่ร้านขายผักร้านเดิมทุกวัน และ ดูเหมือนว่า เด็กหนุ่มคนนั้นก็จะชอบพอกับมิซาเอะด้วยเช่นเดียวกัน

มิซาเอะในบางแง่มุมจึงไม่ใช่ภาพแทนของแม่บ้านที่ดีอย่างที่สังคมญี่ปุ่นคาดหวัง มิซาเอะทั้งต่อรองและสร้างความซับซ้อนให้กับความเป็นแม่บ้านอยู่เสมอ การใช้คำว่า “ต่อรอง” ไม่ใช่ “ต่อต้าน” นั้นก็เนื่องมาจากว่า ในทุก ๆ ครั้งที่มิซาเอะลุกขึ้นมาปฏิเสธวาทกรรมแม่บ้าน ความเป็นแม่ และความเป็นหญิง สุดท้ายแล้วมิซาเอะก็จะวกกลับเข้าวงจรที่น่าเบื่อและไม่มีวันจบนี้อยู่ทุกคราไป ตอน “การสไตรค์งานของแม่” มิซาเอะก็สามารถที่จะตกลงกับฮิโรชิได้ในที่สุด ตอน “งานพิเศษของแม่” มิซาเอะก็ถูกไล่ออกจากงาน ตอน “แม่ครับเนื้อหอมมากเลยครับ” ก็เป็นความเข้าใจผิดของมิซาเอะกับเด็กหนุ่มขายผัก

ซากุระดะ โมเอโกะ (Sakurada Moeko)

ส่วนความซับซ้อนนั้น มิซาเอะได้ทำให้เห็นว่า ภาพที่ดูเรียบง่ายของแม่ศรีเรือนในความเป็นจริงแล้วมันมีความสลับซับซ้อนในเรื่องการถูกกดทับจากภาระหน้าที่ที่สังคมคาดหวังและมีความต้องการที่จะปลดแอกตนเองออกมาจากการถูกกดทับแฝงอยู่ หรืออย่างน้อยก็ขอให้ได้พักบ้างก็ยังดี แม่บ้านบางคนไม่ได้มีนิสัยเหมือนมิซาเอะ แต่ก็น่าจะมีความรู้สึกไม่ต่างกัน แต่ไม่สามารถแสดงออกมาตรง ๆ เหมือนอย่างที่มิซาเอะทำได้ ในมังงะเรื่องเครยอนชินจัง มิตินี้ก็มีให้เห็นเช่นเดียวกันผ่านซากุระดะ โมเอโกะ (Sakurada Moeko) แม่ของเพื่อนชินจัง (เนเน่จัง) ทุกครั้งที่โมเอโกะโกรธหรืออัดอั้นไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็ตาม โมเอโกะจะมีตุ๊กตากระต่ายตัวหนึ่งพกติดตัวไว้ระบายอยู่เสมอ โมเอโกะจะชกตุ๊กตาตัวนั้นในที่ลับตาคนจนกว่าจะรู้สึกเย็นลง    

ท้ายที่สุดแล้ว มิซาเอะก็อาจจะไม่ได้เป็นมากไปกว่าแม่บ้านที่ดีตามขนบธรรมเนียมประเพณี แต่มิซาเอะแสดงให้เห็นว่า ภาพของผู้หญิงที่แต่งงานแล้วในสังคมญี่ปุ่นหลังสงครามไม่ได้สุขสบายไปกว่าผู้ชายที่ต้องออกไปทำงานข้างนอกเสมอไป ภาระหน้าที่อันซ้ำซากอยู่ภายในบ้านก็เหมือนแรงผลักที่กระทำการกับมิซาเอะไว้ แต่ที่ใดมีแรงผลักที่นั่นก็ย่อมมีแรงต้าน ความอัดอั้นอึดอัดของแม่ศรีเรือนจึงพยายามดันเพดานของสังคมที่กดทับไว้ให้ปริออกมาอยู่เสมอ แล้วจะมีสักวันไหมที่คนอย่างมิซาเอะจะสามารถลุกขึ้นมาขบถและต่อต้านได้สำเร็จ เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามิซาเอะปลดแอกได้สำเร็จ แล้วมังงะชินจังเรื่องนี้มันจะไปสนุกอะไรล่ะ (?)


[1] “Japanese poll: 1 in 3 desperate to be housewives,” The Borneo Post.

Leave a comment